Neil Walton
จุดเริ่มต้นของ Bicycle Boys ก่อนที่จะมาเปิดร้านมาจากเว็บไซต์ Blog แต่ก็อย่างที่ทราบกันครับพอเปลี่ยนจากงานอดิเรกมาเป็นงานหลังหนังคนละม้วนครับเหนื่อยสนุกและมีความสุขด้วยความที่เราเป็นร้านจักรยานเล็กๆที่บริหารงานกันเองเกิดจากการรวมตัวกันของเพื่อนกันที่อยากจะทำให้คมมูนิตี้สนุกยิ่งขึ้นครับปีนี้หลังจากจัดการเรื่องระบบของร้านให้ดีขึ้นเราก็อยากจะมาเขียน Blog ให้เพื่อนๆสนุกไปพร้อมๆกัน
หลังจากหยุดวันสงกรานต์เมื่อวานเราเปิดร้านเป็นวันแรกครับและลูกค้าคนแรกที่ปั่นจักรยานมาหาเราคือ Neil Walton เป็นชาวสก็อตแลนด์วัย 61 ปีที่ปั่นจักรยานมินิเวโลล้อ 20" แบรนด์ Crescent มาหาเราที่ร้านโดยนำเข้ามาเปลี่ยนผ้าเบรค , ผ้าพันแฮนด์ และ ติดแร็คหลังอันเดิมที่พังระหว่างรอจักรยานซ่อมเป็นหน้าที่ประจำครับที่ผมจะชอบถามไปเรื่อยผมชอบคุยกับนักปั่นที่แวะเวียนเข้ามา
คุยไปสักพักสัมผัสได้ถึงความรักจักรยานของ Neil หลังจากนั้นก็เลยชวนคุยเกี่ยวกับจักรยานคันนี้ Neil เล่าให้ฟังว่าจักรยานคันนี้เป็นรถพับของเพื่อนที่เขารักมากและคันนี้มีอายุพอๆกันกับตัวเขาคันนี้เป็นปี 1969 ถูกเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ไปพอสมควรเพราะ Neil ต้องการเดินทางด้วยคันนี้เพราะมันสะดวกถ้ามองผ่านมันอาจจะเป็นจักรยานพับธรรมดาคันนี้แต่จริงๆแล้วคันนี้ใช้ดุมและไฟหน้า Son ดุมหลังเป็น Coaster Brake 3speed ทำงานร่วมกับชิพเตอร์ปลายแฮนด์ส่วนเบรคมีเบรคหน้าอย่างเดียวใช้ของ Dia compe BMX (เราเปลี่ยนผ้าเบรค Kool Stop ให้เพื่อเบรคที่ดีขึ้น) จานหน้าและบังโซ่ใช้เป็นของเดิมส่วนกระเป๋าและแร็คหน้าเป็นคัสต้อมจากยุโรปความสนุกคือ Neil ทลายขีดจำกัดของจักรยานและสร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายๆคนครับถ้าไม่เชื่อลองอ่านด้านล่าง !!
Neil ปั่นคันนี้มาจากสิงคโปร์-มาเลเซีย-ยะลา-ภูเก็ต-สุราษ และ กรุงเทพรวมแวะเที่ยวทั้งหมดเป็นระยะทาง 3,155กิโลเมตร Neil เล่าให้ฟังว่าปกติก็ชอบที่จะปั่นจักรยานท่องเที่ยวอยู่แล้วเคยปั่นท่ัวยุโรปแล้วอเมริกามาแล้วแต่ครั้งนี้อยากลองปั่นฝั่งเอเชียบ้างแต่ความตั้งใจครั้งนี้จริงๆคืออยากแสดงพลังให้ลูกชายตัวเองเห็นว่าไม่มีอะไรจะแข็งแรงไปกว่าการใช้หัวใจในการทำสิ่งที่ตั้งใจครับ ลูกชายของ Neil อายุ 12ขวบและข้อนข้างมีน้ำหนักเยอะ Neil เล่าให้ฟังว่ามันเป็นเรื่องที่ยากมากในการจะชวนลูกชายออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้งเพราะลูกชายชื่นชอบวีดิโอเกมส์และเอาแต่จ้องโทรศัพท์แถมยังละเอียดอ่อนมากเมื่อมีคนรอบตัวพูดถึงรูปร่างและน้ำหนักตัวของลูกชายเขาครับ Neil เลยบอกกับลูกชายสั้นๆว่าถ้าต้องการจะทำอะไรบางอย่างสิ่งที่เป็นพลังที่แท้จริงคือหัวใจไม่ใช่ร่างกายถ้าคุณคิดจะทำมัน Neil เลยตัดสินใจอีกครั้งและออกมาปั่นจักรยานในวัย Neil เพื่อแสดงให้ลูกชายวัย 12ปีของเขาเห็นถึงพลังอันยิ่งใหญ่ครับ Neil จะอยู่กรุงเทพถึงเย็นวันศุกร์และจะบินกลับไปสกอตแลนด์และปั่นต่ออีก 2,000กิโล ครับ
เกือบๆจะ 4โมงเย็นหลังจาก Neil ตบเบียร์ขวดที่ 4 ก่อนที่จะลากัน Neil บอกว่าครั้งหน้าจะมาอีกด้วยจักรยานอีกคันแต่จริงๆแล้วจักรยานโปรดคือ Fixedgear ปกติเวลาไปไหนมาไหน Neil จะใช้ฟิกเกียร์สำหรับปั่นชีวิตประจำวัน